TITLE ตั้งเป้ารายได้ปี 65 แตะ 1 พันล้านบาท

บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) อสังหาฯทางเลือกบนเกาะภูเก็ต ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พุ่งแตะ 1,000 ล้านบาท รับนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเมื่อปลายปี 64 ประเมินธุรกิจท่องเที่ยวฟื้น ดึงลูกค้าต่างชาติกลับมาสนใจทำธุรกรรมด้านอสังหาฯคึกคักต่อเนื่อง ฟาก “ศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ระบุว่าขณะนี้มียอดรอการโอนกรรมสิทธิ์แล้วกว่า 500 ล้านบาท เตรียมพร้อมเปิดโครงการใหม่ The TITLE หาดในยาง เฟส3 (Halo 1) มูลค่า 1,600 ล้านบาท และลุ้นผลงานกลับเทิร์นอะราวนด์ในปี 65

นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) เปิดเผยว่า การที่ภาครัฐมีนโยบายเปิดประเทศโดยต้อนรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา หลังสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มคลี่คลาย ส่งสัญญาณที่ดีต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะบนเกาะภูเก็ต เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น และการกลับมาของลูกค้าชาวต่างชาติครั้งนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ได้กลับมาทำธุรกรรมคึกคักต่อเนื่อง ส่งสัญญาอนาคตสดใสให้อสังหาฯ ทางเลือกบนเกาะภูเก็ต

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,000 ล้านบาท และเป้ายอดขายที่ 1,200 ล้านบาท จากโครงการของ The TITLE หาดราไวย์ 500 ล้านบาท และ The TITLE หาดในยาง เฟส 3 (Halo 1) 700 ล้านบาท ที่จะเปิดตัวในภายในไตรมาส 1- 2 ในปี 2565 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมี Backlog กว่า 500 ล้านบาท ที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าต่างชาติได้ในทันที คาดว่าจะสามารถโอนได้ภายหมดในปีนี้

“TITLE เป็นบริษัทอสังหาฯ ทางเลือกบนเกาะภูเก็ต มองว่ารัฐได้ผลักดันนโยบายการเปิดประเทศ และเร่งฉีดวัคซีนครบโดสได้ตามแผน ถือเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยว โดยบรรยากาศการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะได้รับผลดีตามมาด้วย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งจะหันกลับมาให้ความสนใจโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ต และจะช่วยทำให้ลูกค้าที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ หรือรอโอนในช่วงที่ผ่านมา พร้อมที่จะตัดสินใจกลับมาทำธุรกรรมได้ทันที ดังนั้นน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กลับเข้าสู่การเทิร์นอะราวนด์ได้เช่นกัน”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีการวางแผนและปรับกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีความต้องการอสังหาฯ ทางเลือกบนเกาะภูเก็ตของ TITLE ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และพร้อมเปิดโครงการใหม่ The TITLE หาดในยาง เฟส 3 (Halo 1) มูลค่า 1,600 ล้านบาท ภายในไตรมาส 1-2 ในปี 2565 ซึ่งเป็นอีกทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะภูเก็ต และยังมีโครงการอื่นๆ รอพิจารณาเปิดโครงการตามช่วงเวลาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น บริษัทฯ มีแผนจะเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าต่างชาติที่ให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้นบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปัจจุบันและอนาคตไว้แล้ว เพื่อช่วยผลักดันรายได้ และกำไรให้เติบโตได้เป็นอย่างดีในระยะต่อไป

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket